
หลังจากการมอบตัวของ 3 ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม ซึ่ง1ในประเด็นที่สังคมต่างให้ความสงสัยคือ ทำไมถึงต้องฆ่าหั่นศพอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ โดยนางสาวเปรี้ยว ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนกับผู้เสียชีวิตรู้จักกันทำงานด้วยกัน แต่ดันเกิดปัญหากันขึ้นคือเมื่อปี 2559 นางสาวแอ๋ม ถูกตำรวจจับกุข้อหาเสพยาเสพติด จนกระทั่งสาวมาถึงตัวเอง จึงทำให้เกิดความแค้นในตัวผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก จนได้บังเอิญมาพบกับ นางสาวแอ๋ม อีกครั้ง ตนจึงได้วางแผนสั่งสอน ทำการออกอุบายมาเจอกันและทำการชักชวนขึ้นรถ พวกเขาทำร้ายเหยื่อบนรถ แต่รุนแรงเกินไปจนทำให้เหยื่อเสียชีวิต
ในเวลาถัดมา นางสาวเปรี้ยวกับพรรคพวกก็มาช่วยกันคิดหาทางออกว่า จัดการกับร่างอย่างไรดี โดยมีอยู่ 2 ทางคือ โยนถ่วงน้ำ หรือ หั่นศพ แต่ตอนนั้นศพเริ่มแข็งตัวแล้ว ทั้งหมดจึงคิดว่า หากทิ้งน้ำอีกไม่นานร่างก็คงลอยขึ้นมา จึงตัดสินใจหั่นศพให้เป็นชิ้นๆและยัดใส่ท่ออำพรางเอาไว้ทางผู้สื่อข่าวรายงานว่า Facebook เพจอีจัน ได้เผยแพร่เรื่องราวของ เปรี้ยวผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม ซึ่งนายวศินหนึ่งในผู้ร่วมดคีสารภาพว่าเปรี้ยวเป็นคนฆ่าหั่นศพแต่เพียงผู้เดียว เพราะเท่าที่ผ่านมาในประเทศไทยไทยของเรานั้น ก็พบเจอคดีฆ่าหั่นศพมาหลายรายแล้ว ซึ่งทั้งหมดที่เพบ ผู้ลงมือส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งหมดเลย ส่วนถ้าผู้กระทำครั้งนี้เป็นผู้หญิงจริงๆ เพราะโดยตามหลักธรรมชาติแล้วจะมองว่า ผู้หญิงไม่น่ากล้าในการกระทำเรื่องราว
เหล่านี้ เพราะมันค่อนข้างที่จะน่ากลัว เราไม่ได้ปฏิเสธว่าผู้หญิงไม่สามารถทำงานพวกนี้ได้ ผู้หญิงสามารถช่วยผ่าศพได้ แต่ในกรณีนี้การที่ผู้หญิงจะมาจับของที่มันมีสภาพน่ากลัว อย่างศพ อีกทั้งทำการแยกส่วนเป็นชิ้นๆ ส่วนมากจะน้อยที่ผู้หญิงจะกล้าทำในเรื่องแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเปรี้ยวสามารถหั่นศพได้เสร็จภายในเวลา 1 โมงหนึ่งจริงๆ ก็ต้องขอชมเชยว่าเขาสามารถทำได้อย่างเร็วมากและน่าจะมีความชำนาญในการทำพอสมควร เพราะขนาดคนชำนาญมากๆยังต้องใช้เวลามากพอสมควรเลยทีเดียวกว่าจะแยกชิ้นออกมาแต่ล่ะส่วนได้ ปกติถ้าเป็นคนทั่วไปที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการหั่นศพมนุษย์นั้นจะทำได้ค่อนข้างยาก และลำบากมาก เพราะในช่องท้องของคนเรามีอวัยวะมากมาย ไหนจะเลือดต้องออกเยอะมาก รวมทั้งการเคลื่อนย้ายอวัยวะต่างๆก็ทำได้ไม่ง่าย ซึ่งถ้าคนที่ทำได้อย่างชำนาญขนาดนี้น่าจะเคยชำแหละเนื้อสัตว์มาก่อน