องค์กร UNESCO รับรองโขนไทยเป็นมรดกโลก

ศิลปะโขน

‘โขน’ จัดเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงที่มีความงดงาม ทรงพลังและอ่อนช้อย มีการแต่งตัวแต่งองค์ทรงเครื่องจัดเต็ม ใช้ท่าร่ายรำที่มีการเพิ่มตัวแสดงเข้ามาตามเนื้อเรื่อง สามารถเปลี่ยนทำนองเพลงไม่ให้เหมือนกับละครจนเกินไป หากแต่ยังมีการแสดงเรื่องราว ตามลำดับเหมือนละครทุกอย่าง

ข่าวดีอันยิ่งใหญ่ องค์กร UNESCO รับรอง ‘โขนไทย’ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2018 เว็บไซต์ขององค์กรวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือองค์กร UNESCO ออกประกาศรับรองให้  ‘โขนไทย’ เป็นมรดกวัฒนธรรมที่ไม่อาจสัมผัสได้ ของมนุษย์อย่างเป็นทางการแล้ว

นายวีระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางกระทรวงได้รับรายงานเรื่องผลการประชุมของคณะกรรมการ เพื่อรักษามรดกวัฒนธรรมไม่อาจสัมผัสแตะต้องได้ ระหว่างวันที่ 26 พ.ย.-1 ธ.ค. 2018 ณ เมือง Port Louis สาธารณรัฐ Mauritius ซึ่งมีผู้แทนจากประเทศต่างๆมาเข้าร่วมมากมาย โดยการประชุมในครั้งนี้ว่าด้วยการรักษามรดกวัฒนธรรมไม่อาจสัมผัสแตะต้องได้ขององค์กร UNESCO เข้าร่วมประชุมถึง 181 ประเทศ

สำหรับในที่ประชุม ก็ได้มีการพิจารณาอย่างละเอียด พร้อมประกาศให้ขึ้นบัญชีโขนในประเทศไทย ในรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมซึ่งมิอาจสัมผัสแตะต้องได้อย่างเป็นทางการองค์กรณ์ยูเนสโก้

นายวีระ ยังกล่าวต่อว่า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ท่านทรงอนุรักษ์ พร้อมลงมือพัฒนาการแสดงโขนในทุกด้าน นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้สร้างเครื่องแต่งกายรวมทั้งเครื่องประดับโขนชุดใหม่ เพื่อปรับปรุงการแต่งหน้า แต่งกาย ให้งดงามดึงดูดความสนใจ จากผู้ชม นอกจากนี้ยังพัฒนารูปแบบและเทคนิคต่าง , ฉากเวที , แสง , สี , เสียง ซึ่งนี่จึงเป็นที่มาของโขนพระราชทาน

ด้วยองค์ประกอบอันมีความโดดเด่น ไม่มีใครเหมือน จึงทำให้โขนไทยมีพลัง น่าดูชม ช่วยสร้างความน่าตื่นตาประทับใจให้แก่ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ นี่จึงกลายมาเป็นข่าวดีของคนไทยอีกข่าวหนึ่ง

ปี 2018 เป็นปีแรกที่ประเทศไทยได้นำเสนอรายการในหัวข้อ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ให้ UNESCO พิจารณา หลังจากที่ประเทศไทยสมัครเข้าร่วมภาคีอนุสัญญา ในวันที่ 10 มิถุนายน 2017

โดยมี พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษามรดกทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559 เป็นเครื่องรองรับในการเข้าเป็นหนึ่งในกลุ่ม รวมทั้งมีคณะกรรมการรักษามรดกทางวัฒนธรรม โดยมี รมว.วธ. เป็นประธาน เท่านั้นยังไม่พอ เพราะคณะกรรมการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มีการเตรียมความพร้อมต่อไปอีกขั้น นั่นคือการพลักดันมรดกภูมิปัญญาของไทยต่อ UNESCO เพื่อขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาของมนุษยชาติอีกในปีถัดๆไป โดยมรดกเหล่านั้น เช่น การนวดแผนไทย , ระบำโนรา เป็นต้น อีกทั้งยังดำเนินงานศึกษาแนวทาง เพื่อเสนอมรดกวัฒนธรรมภูมิปัญญาอันมีความสอดคล้องกันกับประเทศต่างๆ เพื่อนำเสนอเพิ่มเติมด้วย