หนุ่มหึงโหดเปิดปากรับสารภาพ วางแผนมาตั้งแต่สงกรานต์ !! ตร.แถลงการณ์จับหนุ่มหึงโหดลั่นน้ำกรดใส่เมียอย่างโหดเหี้ยม ต่อมาวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น. ณ สน.ท่าข้าม ออกแถลงการณ์จับกุม นายคำตัน ผู้ต้องหาในคดีเจตนาฆ่าผู้อื่น มีของกลาง คือ แก้วใส่น้ำกรด 1 ใบ และขวดนำกรด 1 ขวด โดยตำรวจจับกุมตัวได้ ณ บ้านเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
เวลา 05.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน นายคำตัน ผู้ต้องหาในคดีนี้ ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ และกำลังคบกับ น.ส.ช่อลัดดา เป็นเวลา 7 ปี โดยทาง น.ส.ช่อลัดดา ประกอบอาชีพพนักงานห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านบางแค หลังจาก น.ส.ช่อลัดดา ทำงานเสร็จก็เดินทางกลับมายังห้องพัก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบางขุนเทียน กทม. นายคำตัน จึงตัดสินใจลงมือ คว้าน้ำกรดซึ่งซ่อนเอาไว้ เทใส่แก้ว แล้วนำมาสาดเข้าที่ใบหน้าของ น.ส.ช่อลัดดาเต็มๆ เมื่อก่อเหตุเสร็จแล้วเขาได้นำแก้วที่เป็นของกลางไปทิ้งไว้ในถังขยะ เพื่อลบหลักฐาน ก่อนจะรีบหลบหนีไปยังบ้านเพื่อนที่ จ.นครสวรรค์ ต่อมาทางตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม ร่วมกับ กก.สส.บก.น.9 ได้สืบสวนพร้อมเดินทางไปจับกุมตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบปากคำนายคำตัน เขาได้ให้การรับสารภาพพร้อมเล่าถึงเหตุจูงใจว่า สำหรับสาเหตุที่ก่อเหตุครั้งนี้ เป็นเพราะแค้นใจมาเป็นเวลานานแล้ว เพราะเขาพบว่าในเดือน เมษายน ที่ผ่านมา น.ส.ช่อลัดดา แอบไปคบหากับชายอื่นจำนวน 2 คน โดยคนแรกเป็นคนขับรถรับจ้างกะป๊อ ย่านบางแค ส่วนคนที่สอง ก็เป็นพนักงานในห้างสรรพสินค้าที่ทำงานเดียวกัน ทำให้ระยะหลังทั้งคู่เกิดการทะเลาะอย่างขั้นรุนแรง
นายคำตัน ได้ซื้อน้ำกรดซึ่งนำมาใช้สำหรับงานเชื่อมบัดกลีจากเพื่อน โดยเริ่มจากใช้น้ำกรดเทใส่แก้วกาแฟขนาดเท่ากับกระป๋องน้ำอัดลม ซึ่งแอบเตรียมไว้ในห้องพัก วันลงมือตนได้เทใส่แก้ว ก่อนจะนำมาสาดเข้าไปยังใบหน้าของ น.ส.ช่อลัดดา จนเธอได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยถ้ามนุษย์ได้รับปริมาณน้ำกรดจำนวนมาก ก็สามารถทำให้เสียชีวิตได้
ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังควบคุมตัวนายคำตัน ก็ได้มีญาติสนิทมิตรสหาย ของน.ส.ช่อลัดดา ยืนดูเหตุการณ์อยู่ไกลๆ สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า น้ำตาไหลอาบทั้ง 2 แก้ม เสียงสะอื้นดังขึ้นมาเพื่อทำงายความเงียบ โดยมีบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นป้าของผู้เสียชีวิตได้ร้องด้วยความคับแค้นก่อนจะถามว่า ‘มึงฆ่าหลานกูทำไม’ นอกจากนี้สายข่าวยังรายงานว่า นายคำตัน ชอบใช้ความรุนแรงอยู่เสมอ และได้มีการเตรียมแผนการมาตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน